Tuesday, October 9, 2012

พอร์ตลงทุน โดยวิธี DCA


มะลิตูม การขึ้นลงของกองทุนตราสารทุน ส่วนใหญ่ไปในทิศทางเดียวกันกับราคาหุ้น นับกันเป็นรอบๆ แบ่งเป็นรอบขาขึ้น และรอบขาลง แต่ละรอบไม่มีกำหนดระยะเวลาตายตัว บางรอบอาจกินเวลาไม่กี่สัปดาห์ บางรอบอาจยืดเยื้อเป็นแรมปี ไม่ว่าจะเป็นรอบขาขึ้นหรือขาลง ไม่มีใครคาดหมายได้ว่าจะกินเวลายาวนานเท่าไหร่

มะลิตูม และถ้าคาดการณ์ผิด ซื้อขายไม่ถูกจังหวะ นอกจากจะพลาดนาทีทองในการทำเงินแล้ว ยังมีโอกาสเสียหายยับเยินได้ การพิจารณาจังหวะเวลาการลงทุนที่เหมาะสมไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่วิธีหนึ่งค่อยข้างที่จะได้ผล นั่นคือการลงทุนแบบ ถัวเฉลี่ย ชื่อภาษาอังกฤษว่า Dollar Cost Average (DCA) / Mutual Funds

หลายคนเชื่อว่าน่าจะลดความเสี่ยงในด้านการเข้าลงทุนได้ในระดับหนึ่ง

มะลิตูม เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยป้องกันเราจากความผันผวนในตลาดหุ้นถ้าคุณเป็นนักลงทุนระยะปานกลางถึงยาว แน่นอน ในทุกการลงทุนเราอยากซื้อหุ้นได้ในราคาถูกสุด ขายได้ในราคาแพงสุด ได้กำไรมากสุด แต่ในความเป็นจริง ใครจะไปรู้ได้ว่า หุ้นที่ราคาถูกสุดอยู่ที่ตรงไหน ไม่ว่าใครจะอ้างตัวว่าเป็นเซียน ศึกษาราคาทั้งพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคมาอย่างโชกโชนก็ยังไม่สามารถบอกได้อย่างถูกต้องและแม่นยำว่า หุ้นตัวถูกที่สุด อยู่ที่ไหน

มะลิตูม วิธีการของ DCA คือ การเข้าลงทุนโดยกำหนดจำนวนเงินที่แน่นอนในการเข้าซื้อในแต่ละเดือน คล้ายๆ ฝากประจำนั่นล่ะครับ (แต่ผลตอบแทนต่างกัน) ถ้าคุณซื้อในราคาสูง จะได้จำนวนหน่วยลงทุนน้อย จากเงินจำนวนเดียวกัน ถ้าราคาหุ้นลดต่ำลง คุณซื้อหุ้นในราคาถูก และได้จำนวนหน่วยลงทุนมากขึ้น

มะลิตูม เมื่อระยะเวลาหนึ่งผ่านไป ในพอร์ตการลวทุนของคุณจะมีหน่วยลงทุนหลายราคา ทั้งถูกทั้งแพงเฉลี่ยกันไป เป็นการลดความเสี่ยงที่คุณจะนำเงินทั้งก้อนไปลงทุนครั้งเดียวที่ราคาเดียว เพราะคุณหรือใครก็ไม่มีทางรู้ได้ว่า ราคานั้นสูงเกินไปหรือไม่ ณ เวลานั้นๆ ดังนั้น จะมีบางเดือนที่คุณซื้อได้ในราคาแพง แต่จะได้จำนวนหุ้นน้อย แต่เดือนต่อมา ตลาดหุ้นลดต่ำลง ผลเสียก็คือ คุณขาดทุนที่ซื้อไปเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ผลดีก็คือ คุณยังมีเงินที่จะเข้าซื้อได้อีกต่อไปในเดือนนี้ แถมคุณซื้อได้ในราคาที่ถูกลง และได้จำนวนหน่วยลงทุนมากขึ้น

มะลิตูม ในบางเดือนที่ราคาสูงขึ้น ผลดีคือ คุณเริ่มยิ้มได้เพราะมีผลกำไรจากการลงทุน แต่ผลเสียคือ เมื่อราคาหุ้นสูง คุณจะซื้อได้จำนวนน้อยลง ซึ่งจริงๆ เป็นการลดความเสี่ยงที่คุณจะเข้าซื้อที่ราคาสูงเกินไป หรือการเข้าซื้อตอนตลาดบูมมากๆ เมื่อคุณเข้าลงทุนโดยการเฉลี่ยต้นทุนได้ครบ 8 เดือน คุณจะได้พอร์ตการลงทุนที่สามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนในระยะยาวได้เป็นอย่างดีทีเดียว

มะลิตูม วิธีการ DCA เหมาะกับการลงทุนในระยะยาวได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องสนใจว่าราคาหุ้นในวันที่คุณเข้าลงทุน จะแพงไปหรือถูกไป ยิ่งถ้าคุณซึ่งไม่เคยลงทุนมาก่อนหรือเซียนหุ้นหน้าไหนก็ไม่มีทางรู้ ยิ่งลง กองทุนของคุณมีแต้มต่ออยู่แล้ว

ถ้าแบ่งกองทุน โดยใช้หลักเกี่ยวกับ "นโยบายปันผล" ก็มี 2 แบบ
1. แบบมีนโยบายปันผล
   ข้อดี : เน้นซื้ออย่างเดียว วัตถุประสงค์เพื่อสะสมหน่วยลงทุน
            ให้มีจำนวน nav เพิ่มขึ้น เมื่อกองทุนมีการจ่ายปันผล
            ออกมาก็จะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นตามจำนวน nav

2. แบบไม่มีนโยลายปันผล
   ข้อดี : การขึ้นลงของหน่วยลงทุนขึ้น/ลง เร็วและแรงกว่าแบบแรก
            ดังนั้นผลตอบ profie/loss ผันผวนสูง เหมาะสำหรับคนที่
            มีความชำนาญในการคาดเดาทิศทางการขึ้นลงของ SET




เงินที่เราได้มาจากการลงทุนในหุ้น - กองทุน แยกเป็นสองส่วนครับ
file 1. capital gain => อันนี้มันอาจเป็น Zerosum game เนื่องจากเราได้เงินจากคนที่ซื้อต่อจากเรา
file 2. Dividend => อันนี้มาจากกำไรของ บ. ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากนอกตลาดหุ้น เมื่อบริษัทมีกำไร ก็จะมีการจ่ายปันผล

ลองนำวิธี DCA ไปปรับใช้กับทุกการลงทุนดู
(เงินมาก เงินน้อย ไม่สำคัญ ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ และพยายามเรียนรู้ โดยใช้ปัญญา และหลักการลงทุนแบบพอเพียง) สู้ๆครับ

*ไม่มีใครรู้ไปหมดทุกเรื่อง เราแค่มาแบ่งปันกัน *ขอให้โชดดีทุกท่าน

 

0 comments:

Post a Comment

Popular Posts