Tuesday, October 23, 2012

เลือกโปรโมชั่นเงินฝากธนาคาร

 แบงก์ดาหน้าดึงเงินฝาก งัดดอกเบี้ยสูงจูงใจ ปรับบัญชีออมทรัพย์เป็นกึ่งฝากประจำ ไม่ต้องเสียภาษี แถมได้ดอกเบี้ยสูงกว่าปกติ นักบริหารเงินแนะอย่าดูที่ดอกเบี้ยสูงเพียงอย่างเดียว ต้องหาค่าเฉลี่ยของดอกเบี้ยรวม พร้อมทั้งเงื่อนไขอื่นที่พ่วงเข้ามาอ่าน-สอบถามให้ละเอียด หากพลาดแล้วอาจถูกปรับหรือลดดอกเบี้ยลง
      
            ในระยะนี้ผู้มีเงินออมหลายท่านคงได้เห็นผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เชิญชวนให้ผู้มีเงินออมนำเงินไปฝากไว้กับธนาคารเหล่านั้น ตัวเลขอัตราดอกเบี้ยที่เสนอให้สูงกว่าปกติหลายเท่าตัว ทำให้หลายคนตาลุก อยากที่จะนำเงินไปฝากไว้กับธนาคารแห่งนั้น
      
            ขณะที่เงินฝากออมทรัพย์แข่งขันกันที่อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 3% สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำปกติมากกว่าเท่าตัว
      
            จากการสำรวจตลาดเงินฝากของ "ASTV ผู้จัดการรายวัน" พบว่า การแข่งขันแย่งเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ แบ่งเป็น 2 บัญชี คือ บัญชีเงินฝากประจำและบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ (บางแห่งใช้คำว่าบัญชีเงินฝากเผื่อเรียก)
      
            สำหรับบัญชีออมทรัพย์ในระยะนี้มี 2 ธนาคารที่แข่งขันกันคือธนาคารทหารไทย (TMB) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ส่วนของธนาคารออมสินเป็นบัญชีเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษที่มีระยะเวลากำหนดไว้
      
            โดยธนาคารกรุงศรีฯ ได้เสนอเงินฝากพิเศษกรุงศรี ออมทรัพย์มีแต่ได้ เปิดบัญชีขั้นต่ำ 500 บาท ไม่กำหนดยอดเงินคงเหลือขั้นต่ำในบัญชี สามารถถอนได้ 2 ครั้งต่อเดือน ไม่คิดค่าธรรมเนียม ไม่จำกัดจำนวนบัญชีที่ลูกค้าสามารถเปิดได้ต่อคน อัตราดอกเบี้ย 2.9%
      
            ขณะที่ธนาคารทหารไทยมีบัญชีเงินฝากไม่ประจำ ทีเอ็มบี ดอกเบี้ยสูง ซึ่งเป็นบัญชีพิเศษที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ แต่ทางธนาคารแจ้งว่า เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จกับบัญชีที่คนกว่าครึ่งล้านเปิดใช้ โดยเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3% จนถึง 31 กรกฎาคม 2555 โดยถอนเมื่อไรก็ได้และไม่มีขั้นต่ำ
      
       ตัวเลขเรียกแขก
            “บัญชีออมทรัพย์แบงก์กรุงศรีให้ 2.9% ทหารไทยให้ 3% ใครเห็นตัวเลขนี้คงตาลุก เพราะฝากออมทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี คือรับเต็มๆ ดอกเบี้ยอัตรานี้สูงกว่าเงินฝากประจำระยะยาวอีก”
      
            นักบริหารเงินให้คำแนะนำในเรื่องนี้ว่า ตัวเลขดังกล่าวถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยออมทรัพย์ปกติที่ 0.75% ที่สำคัญคือไม่ต้องเสียภาษีจากอัตราดอกเบี้ยเพราะไม่ถือเป็นบัญชีเงินฝากประจำ คือธนาคารได้พัฒนาผลิตภัณฑ์นี้มาโดยการเอาบัญชีเงินฝากมาบวกด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงของบัญชีเงินฝากประจำ เรียกว่าบัญชีเงินฝากไม่ประจำ จึงมีสภาพเป็นบัญชีออมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ยสูง
      
            วันนี้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้พัฒนามากขึ้น มีการนำเอาหลักทางการตลาดเข้ามาใช้มากขึ้นเพื่อดึงดูดใจลูกค้า ไม่แตกต่างจากสินค้าประเภทอื่น ผู้บริโภคก็ต้องปรับตัวให้ทันกับการตลาดของแบงก์พาณิชย์ด้วยเช่นกัน ตัวเลขของผลตอบแทนที่สูงกว่าปกตินั้น ย่อมจะต้องมีเงื่อนไขอื่นพ่วงเข้ามาด้วย
      
            ดอกเบี้ยที่สูงเป็นพิเศษเท่ากับแบงก์ต้องมีต้นทุนมากกว่าปกติ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละแบงก์ว่าทำการตลาดด้วยดอกเบี้ยสูงด้วยวัตถุประสงค์ใด บางแห่งถือว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของงบประชาสัมพันธ์ธนาคารไปในตัว หรืออาจต้องการขยายฐานของธนาคารให้มากขึ้นกว่าเดิม
      
       ถามละเอียดก่อนฝาก
            การนำเอาบัญชีเงินฝากออมทรัพย์มาเพิ่มด้วยดอกเบี้ยสูง จะเห็นได้ว่ามีธนาคารทหารไทยและธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นธนาคารขนาดกลาง ที่ต้องการเพิ่มฐานลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น ขณะที่แบงก์ขนาดใหญ่ยังไม่ลงมาเล่นในเกมนี้
      
            ธนาคารทหารไทยที่เปิดบัญชีเงินฝากไม่ประจำครั้งแรกให้อัตราดอกเบี้ย 2.5% ถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยกับมากกว่า 5 แสนบัญชีที่เปิดเพิ่ม จึงได้ออกโปรโมชันให้ดอกเบี้ย 3% มากระตุ้นต่อเนื่องในช่วง 1 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2555
      
           ปัจจุบันดอกเบี้ยปกติของบัญชีเงินฝากไม่ประจำของธนาคารทหารไทยลดเหลือ 2% ความหมายของโปรโมชันดังกล่าวคือให้ดอกเบี้ย 3% เฉพาะ 2 เดือนที่มีโปรโมชันทั้งลูกค้าบัญชีเก่าและเปิดบัญชีใหม่ เมื่อพ้นจากสิ้นเดือนกรกฎาคมไปแล้วจะปรับดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 2%
      
            สิ่งที่ทหารไทยทำคือให้ดอกเบี้ยปกติบวกด้วยโบนัสอีก 1% โดย 1% นี้ให้เฉพาะ 2 เดือนเท่านั้น เช่น ถ้าไปฝากเงินทั้งบัญชีเก่าและเปิดบัญชีใหม่ในวันที่ 31 กรกฎาคม ก็จะได้ดอกเบี้ย 2+1% แค่ 1 วัน ดังนั้นใครที่ใช้โอกาสนี้ฝากก่อนก็จะได้ดอกเบี้ยพิเศษในระยะเวลาที่นานกว่า
      
            บัญชีเงินฝากดังกล่าวกำหนดไว้ไม่สามารถทำบัตรเอทีเอ็มได้ การทำรายการใน 1 เดือนเปิดให้ทำได้ 2 ครั้ง หากมีครั้งที่ 3 จะคิดรายการละ 50 บาท ลูกค้าที่ปิดบัญชีก่อนวันที่ 4 สิงหาคม 2555 จะไม่ได้รับดอกเบี้ยโบนัส จำกัดลูกค้าในการเปิดบัญชีได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น
      
            สำหรับธนาคารกรุงศรีฯ กับบัญชีออมทรัพย์มีแต่ได้ ดอกเบี้ย 2.9% กำหนดเงินฝากขั้นต่ำไว้ที่ 500 บาท กรณีนี้สามารถทำรายการผ่านบัตรเอทีเอ็มได้ กำหนดทำรายการถอนได้ 2 ครั้งต่อเดือน ตั้งแต่ครั้งที่ 3 คิดค่าบริการ 50 บาท
            ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่ 2.9% จะให้เฉพาะลูกค้าที่มีเงินฝากตั้งแต่ 1 แสนบาท-10 ล้านบาท ส่วนลูกค้าที่มีเงินฝากต่ำกว่า 1 แสนบาทจะได้ดอกเบี้ย 1% แต่ไม่จำกัดจำนวนบัญชีต่อคน
            ธนาคารออมสินเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 99 วัน รูปแบบใหม่ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 2.75% เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 109 วัน รูปแบบใหม่ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 2.85% เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 11 เดือน รูปแบบใหม่ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 3%
      
       ให้เลือกประจำสั้น-ยาว
            อีกประเภทหนึ่งคือบัญชีเงินฝากประจำ ในกลุ่มนี้จะมีธนาคารขนาดใหญ่เข้ามาทำโปรโมชันดึงดูดใจลูกค้า บัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ที่เพิ่งหมดโปรโมชันไปคือบัญชีเงินฝากประจำได้กับได้ 13 เดือน รับดอกเบี้ยสูงสุด 13% ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยเป็นราย 3 เดือน จำนวน 4 ครั้ง เดือนที่ 1-3 อัตราดอกเบี้ย 1.75% ต่อปี เดือนที่ 4-6 อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เดือนที่ 7-9 อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี เดือนที่ 10-12 อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี และ 1 เดือนสำหรับงวดสุดท้าย จะได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 13% ต่อปี คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยทั้งโครงการเท่ากับ 3.48%
      
            รูปแบบนี้ใช้กันมาโดยตลอดเป็นดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้ธนาคารต้องแจ้งอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยให้กับลูกค้าได้ทราบไว้ด้วย แม้ว่าการเชิญชวนจะบอกว่าฝาก 13 เดือน ดอกเบี้ยสูงสุด 13% เป็นอักษรตัวโตเพื่อดึงดูดความสนใจ แต่ดอกเบี้ยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3.48% กับระยะเวลาฝากคือ 1 ปี 1 เดือน
      
            ธนาคารธนชาตมีบัญชีเงินฝากประจำ 3 ประเภทให้เลือกคือ เงินฝากประจำพิเศษ 88 วัน ดอกเบี้ย 2.88% เงินฝากประจำพิเศษ 8 เดือน ดอกเบี้ย 3.3% เงินฝากประจำ 11 เดือน ดอกเบี้ย 3.4% และเงินฝากประจำพิเศษ SUPER GROW UP 15 เดือน ดอกเบี้ยขั้นบันได ช่วงเดือนที่ 1-5 ดอกเบี้ย 3.20% เดือนที่ 6-10 ดอกเบี้ย 3.70% เดือนที่ 11-15 ดอกเบี้ย 4.20% หรืออัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.70% ต่อปี
      
            ธนาคารกรุงไทยออกเงินฝากประจำใจถึง อายุ 22 เดือน ดอกเบี้ยสูงถึง 4% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ฝากขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงที่สุดในปีนี้ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการได้รับผลตอบแทนสูงสำหรับเงินฝากระยะยาว
      
            นอกจากนี้ยังได้ขยายระยะเวลารับดอกเบี้ยพิเศษเงินฝากประจำตามใจ สูงสุด 3.35% ต่อปี ไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม รับฝากขั้นต่ำครั้งละ 50,000 บาท โดยลูกค้าสามารถเลือกรับอัตราดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ฝากตั้งแต่ 7-365 วัน โดยฝาก 7-30 วัน รับดอกเบี้ยในอัตรา 0.80% ต่อปี ฝาก 31-60 วัน รับ 1.25% ต่อปี ฝาก 61-90 วัน รับ 1.7% ต่อปี ฝาก 91-120 วัน รับ 2% ต่อปี ฝาก 121-180 วัน รับ 2.3% ต่อปี ฝาก 181-270 วัน รับ 2.6% ต่อปี ฝาก 271-300 วัน รับ 3.25% ต่อปี และฝาก 301-365 วัน รับดอกเบี้ยในอัตรา 3.35% ต่อปี
      
            “เงินฝากประจำตามใจไม่ใช่แบบขั้นบันได ผู้ฝากเงินสามารถเลือกได้ว่าต้องการจะฝากกี่วันก็รับดอกเบี้ยตามช่วงเวลาที่ธนาคารกำหนดให้ เช่น ต้องการฝากไม่ถึงปี แค่ 315 วันก็รับดอกเบี้ยไป 3.35% หรือต้องการฝากแค่ 3 เดือนได้ดอกเบี้ย 1.7%” ฝ่ายเงินฝากธนาคารกรุงไทยกล่าว
      
            นอกจากนี้ยังมีบัญชีเงินฝากประจำ 5 เดือนของธนาคารออมสินให้อัตราดอกเบี้ย 3.4% เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่ต้องการฝากเงินในระยะยาว
      
            ล่าสุดธนาคารกรุงเทพได้เปิดตัวบัญชีเงินฝาก ระยะเวลา 11 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3% เปิดบัญชีด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำ 200,000 บาท และนำฝากแต่ละยอดเงินฝากไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท จนถึง 12 กรกฎาคม 2555 และเงินฝากประจำพิเศษระยะเวลา 4 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.625% ได้ขยายระยะเวลาการรับฝากออกไปจนถึง 25 มิถุนายน 2555 โดยยังคงเงื่อนไขเดิมด้วยยอดเงินเปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 200,000 บาท
      
       รู้เหลี่ยมเงินฝาก
            ฝ่ายผลิตภัณฑ์เงินฝากของธนาคารพาณิชย์แนะนำว่า สิ่งหนึ่งที่ผู้มีเงินออมพึงทราบไว้คือ ดอกเบี้ยเงินฝากแบบออมทรัพย์หรือฝากเผื่อเรียก ไม่ต้องเสียภาษี 15% จากดอกเบี้ยที่ได้เหมือนกับบัญชีเงินฝากประจำ แต่ตัวอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวไม่กำหนดระยะเวลาแน่นอน ขึ้นอยู่กับธนาคารจะเป็นผู้กำหนด
      
            แตกต่างจากบัญชีเงินฝากประจำที่มีอัตราดอกเบี้ยกำหนดไว้แน่นอนจนถึงครบกำหนด เช่น เงินฝากประจำดอกเบี้ย 4% เมื่อหักภาษีแล้วผลตอบแทนสุทธิจะอยู่ที่ 3.4% กับระยะเวลาฝาก 22 เดือนดอกเบี้ยก็จะให้ในอัตรานี้ตลอดจนครบระยะเวลารับฝาก
      
            ส่วนบัญชีฝากประจำที่ให้อัตราดอกเบี้ยขั้นบันได จะต้องหาอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยก่อนซึ่งส่วนใหญ่ธนาคารจะคิดมาให้ แต่ตัวข้อความอาจจะเล็กไปบ้าง จากนั้นต้องนำมาลบด้วยภาษีที่จะต้องถูกหัก 15% จึงจะได้ดอกเบี้ยสุทธิ หากลองคำนวณแล้วจะสามารถเปรียบเทียบได้ว่าเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนที่ดีนั้นควรจะเป็นที่ใด
      
            บัญชีเงินฝากประจำพิเศษจะกำหนดให้ผู้เปิดบัญชีต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์ปกติไว้คู่กันเพื่อโอนดอกเบี้ยที่ได้รับ และเมื่อครบกำหนดก็จะโอนเงินต้นกลับไปไว้ที่บัญชีออมทรัพย์เช่นกัน ดังนั้น อย่าหวังว่าดอกเบี้ยที่ได้จะนำไปทบต้นแล้วฝากต่อในบัญชีเดิมเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น
      
            นับจากนี้ผู้มีเงินออมจะตัดสินใจโดยดูจากอัตราดอกเบี้ยสูงเพียงอย่างเดียว หรือเห็นจากโฆษณาแล้วตัดสินใจเลยอาจจะทำให้ท่านเสียประโยชน์จากการออมเงินได้ ดีที่สุดคือการโทรศัพท์ไปสอบถามหรือขอเอกสารรายละเอียดนำมาศึกษาก่อนตัดสินใจ และควรทำการเปรียบเทียบกับโปรโมชันเงินฝากของธนาคารอื่น
      
            ตรวจสอบเรื่องของเงื่อนไขอื่นๆ เช่น เงินฝากขั้นต่ำ เงินคงค้างในบัญชีว่ามีหรือไม่ ถ้ามีเป็นจำนวนเงินเท่าใด กรณีการถอนก่อนกำหนดกับอัตราดอกเบี้ยว่าจะได้ในอัตราใด เพราะบางแห่งอาจจะให้ดอกเบี้ยเฉพาะช่วงเวลาที่ฝาก หรือบางแห่งอาจปรับดอกเบี้ยลงเหลือเท่ากับดอกเบี้ยฝากออมทรัพย์ปกติ และค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพราะไม่เช่นนั้นผลตอบแทนที่ท่านคาดว่าจะได้รับอาจไม่เป็นไปตามที่หวังหากทำผิดเงื่อนไขของธนาคาร

อ้างอิงจาก http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000072167

0 comments:

Post a Comment

Popular Posts